ฟิล์มหดคืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
ในอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่งสินค้า ความปลอดภัยและการปกป้องสินค้าระหว่างการขนส่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในนวัตกรรมที่เข้ามาตอบโจทย์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ “ฟิล์มหด” ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่ช่วยห่อหุ้มสินค้าได้อย่างแน่นหนา แต่ยังช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายได้อย่างดีเยี่ยม บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับคุณสมบัติและข้อดีของฟิล์มหด ที่ทำให้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในการบรรจุภัณฑ์สินค้ายุคปัจจุบัน
ฟิล์มหด คือ พลาสติกที่ได้รับการหลอมละลายด้วยความร้อนแล้วทำการเป่าขึ้นรูปให้มีลักษณะบางคล้ายแผ่นฟิล์ม ซึ่งหากแผ่นฟิล์มนี้ได้รับความร้อนตามอุณหภูมิที่กำหนด แผ่นฟิล์มจะมีการหดตัว จึงเรียกว่าฟิล์มหด ปัจจุบันฟิล์มหดนิยมนำมาห่อหุ้มสินค้าต่าง ๆ เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค บริโภค เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันความเสียหาย และจัดระเบียบสินค้าให้สวยงาม
ฟิล์มหดมี 2 แบบ ดังนี้
1.ฟิล์มหดเนื้อใสและเงา
ฟิล์มหดแบบใสและเงา จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า สินค้าดูโดดเด่นสวยงามและน่าสนใจ นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความสะอาด ทำให้สินค้าของคุณดูใหม่ตลอดเวลาด้วย หากใช้ฟิล์มหดประเภทใสและเงาจะช่วยให้สินค้าที่ดูเรียบง่ายกลายเป็นสินค้าที่ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น อีกทั้งยังมีความทนทานในระดับปานกลาง
2.ฟิล์มหดเนื้อขุ่น
ฟิล์มหดจะมีเนื้อที่ขุ่น หลังจากที่ถูกความร้อนแล้วตัวฟิล์มจะเกิดการหดตัว เมื่อฟิล์มหดตัว ฟิล์มจะกลายเป็นผิวสัมผัสที่มีความเหนียวและแข็งแรงมากขึ้น นิยมใช้ห่อสินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือใช้ห่อสินค้าหลาย ๆ ชิ้นรวมเป็นกลุ่มเดียวกัน
ฟิล์มหดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1.โพลิเอทิลีน Polyethylene หรือ (PE)
2.พอลิไวนิลคลอไรด์ Polyvinyl Chloride (PVC)
3.โพลิโอเลฟิน Polyolefin (POF)
ฟิล์มหดแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น สี ความใส ความหนา ความเหนียว ความแข็งแรง อุณหภูมิการหด
1.ฟิล์มหด PE
ฟิล์มหดจากพลาสติกโพลิเอทิลีน หรือ PE มีคุณสมบัติหลักคือ เบา เหนียว ทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง ฉีกขาดยาก สามารถรีไซเคิลได้ สามารถผลิตเป็นฟิล์มได้ด้วยความหนาถึง 300 ไมครอน ซึ่งความหนาของฟิล์ม PVC และ POF สูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 25 ไมครอน ฟิล์มหด PE สามารถรับน้ำหนักได้ดีที่สุด แต่เนื่องจากฟิล์มหด PE มีความหนามากกว่า ทำให้ฟิล์มหด PE มีความใสน้อยกว่า และมีอัตราการหดตัวที่น้อยกว่าเฉลี่ยโดยประมาณ 25% ซึ่งพลาสติก PE นั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ HDPE,LDPE,LLDPE และ mLLDPE
- HDPE (High-Density Polyethylene) โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง
ฟิล์มที่มีความหนาแน่นสูงจะมีความแข็งแรงมาก ทนทานต่อสารเคมีต่าง ๆ ทั้งกรดและด่าง มีความต้านทานต่อแรงดึงมาก แต่จะมีสีขุ่น ไม่ใสเท่าฟิล์มที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า
- LDPE (Low-Density Polyethylene) โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ
ฟิล์มที่มีความหนาแน่นต่ำ รับน้ำหนักได้มาก ขึ้นรูปง่าย สามารถทำให้สีใสได้มากกว่า HDPE และนำไปผลิตเป็นถุง ฟิล์ม และบรรจุภัณฑ์ได้หลากหลาย
- LLDPE (Linear Low Density Polyethylene) โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น
ฟิล์มหดที่ผลิตจากวัสดุประเภทนี้ มีคุณสมบัติความหนาเท่ากับ LDPE แต่จะมีความยืดหยุ่นสูงกว่า ทนการกระแทกได้ดีกว่า
- mLLDPE (Metallocene Linear Density Polyethylene) โพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้นจากเมทัลโลซีน
mLLDPE มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับ LLPDE แต่มีโครงสร้างโมเลกุลที่มีระเบียบกว่า ทำให้มีความใสมากกว่า และความหนาที่น้อยกว่า มักนิยมใช้ในการบรรจุอาหาร
2.ฟิล์มหด PVC
ฟิล์มหด PVC เป็นฟิล์มหดที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีความเบาและราคาถูก สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายประเภท แต่ในปัจจุบันฟิล์มหด PVC ได้รับความนิยมน้อยลง เนื่องจากมีสารก่อมะเร็ง ไม่แนะนำให้นำมาห่ออาหาร ในบางประเทศถึงขั้นไม่สามารถนำฟิล์ม PVC มาห่อหุ้มได้เลย ฟิล์มหด PVC เมื่อโดนความร้อนจะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ซึ่งจุดเด่นหลัก ๆ ของฟิล์มหด PVC นั้นจะมีคุณสมบัติใส หดตัวสูง มีทิศทางในการหดไปในทิศทางเดียวกัน มีหลายเกรดให้เลือกซื้อ สามารถหาซื้อได้ง่าย ข้อควรระวังในการใช้ฟิล์มหด PVC เมื่อฟิล์มหดเจออุณหภูมิที่สูงจะเกิดการย่นของฟิล์ม แต่ถ้าหากอยู่ในอากาศที่เย็นเกิดไปก็จะเกิดการแตกได้ง่าย
3.ฟิล์มหด POF
ฟิล์มหด POF เป็นฟิล์มที่มีคุณภาพสูงที่สุด เมื่อเทียบกับฟิล์มหด PE และ ฟิล์มหด PVC เนื่องจากฟิล์มหด POF นั้นมีลักษณะบาง มีความใส เงา เหนียว ทนต่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง เมื่อทำการเปรียบเทียบกับฟิล์มหด 2 ชนิดข้างต้น พบว่าฟิล์มหด POF มีความนุ่มและอ่อนตัวกว่า อีกทั้งเมื่อนำมาใช้งานตะเข็บฟิล์มจะมีขนาดที่เล็กมาก ไม่รู้สึกบาดมือเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสัมผัสกับอาหารได้เพราะเป็น Food grade แต่ฟิล์มหด POF นั้นจะหาซื้อค่อนข้างยาก และมีราคาสูง
ฟิล์มหดเหมาะกับการแพ็คสินค้าอะไรบ้าง
ฟิล์มหดเหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์ประเภท ขวด กระป๋อง กล่องเล็ก ๆ กล่องทั่วไป และ บรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย ตัวบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบามาก หรือ รูปทรงซับซ้อน อาจยากต่อการจัดรูปแบบ หรือเคลื่อนย้ายระหว่างกระบวนการแพ็ค และอาจจะไม่แน่นตึงหลังจากแพ็คฟิล์มหด
โดยสรุปแล้วฟิล์มหดนั้นมีประโยชน์และได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ฟิล์มหดนั้นจะเหมาะสำหรับการห่อบรรจุภัณฑ์หรือสินค้าเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ห่อเดี่ยว ห่อรวม หรือแยกเป็นชิ้นก็ตาม สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาโรงงานผลิตฟิล์มหดคุณภาพดี วัลย์ดีพาณิชอุตสาหกรรม เราเป็นผู้ริเริ่มผลิตฟิล์มพลาสติก LDPE อันดับต้นของประเทศ และมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต และจำหน่ายพลาสติก เพื่อการบรรจุภัณฑ์และพลาสติกเพื่อการเกษตร เรามีความพร้อมในการพัฒนาสร้างนวัตกรรมไปพร้อมกับลูกค้า เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
อ้างอิงข้อมูลจาก
- https://www.mmpcorp.co.th/post/advantages-of-stretch-film-and-shrink-film
- https://acepackaging.co.th/what-is-shrink-film/
- https://packhai.com/shrink-film/#film_hd_na_pi_chi_tha_xari_di_bang
- https://www.autopack.co.th/shrink-packaging/
- https://productsandsolutions.pttgcgroup.com/th/blog/shrink-film-%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89
ติดต่อเรา
Line : salewandee
Tel : (+66)2-717-2960
Email : sale@wandee.co.th